วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553
ออทิสติก
ออทิสซึม คือ อะไร
ออทิสติก เป็น "pervasive developmental disorders" ซึ่งก็คือมีความผิดปกติในด้าน
พัฒนาการอย่างรอบด้าน แสดงอาการอย่างชัดเจนในวัยเด็ก ก่อให้เกิดพัฒนาการทางด้านความ
สัมพันธ์ทางสังคมและการสื่อสาร ไม่เป็นไปตามปกติ ส่งผลให้มี พฤติกรรมความสนใจ และ
กิจกรรมที่ผิดปกติ ลักษณะต่าง ๆ ในบุคคลออทิสติก
- เข้ากับคนอื่นได้ยาก หรือไม่ได้เลย ชอบอยู่คนเดียว ทำอะไรซ้ำ ๆ ไม่ชอบให้กอด หัวเราะอย่างไม่มีเหตุผล หมุนตัว หรือสิ่งของ.กลัวในสิ่งไม่สมควรกลัว กระตุ้นตัวเอง ไม่สบตาคน หงุดหงิด งอแง โดยไม่มีเหตุผล ไม่ตอบสนองต่อการสอนตามปกติ เรียกไม่หัน มีท่าทางการเล่นแปลก ๆ ติดวัตถุ สิ่งของบางชิ้น อาจไว หรือไม่ไวต่อความเจ็บปวด กล้ามเนื้อใหญ่และเล็ก พัฒนาไม่ปกติ ส่งเสียงประหลาด แสดงความต้องการไม่ได้ ใช้ท่าทาง หรือจับมือผู้อยู่ใกล้ไปหยิบของที่ต้องการ
การสังเกตพฤติกรรมในบุคคลออ ทิสติก
บุคคลออทิสติก จะมีพฤติกรรมที่ผิดปกติ 3 ด้านใหญ่ ๆ คือ 1.ความสัมพันธ์ทางสังคม 2.การสื่อสาร 3.ความสนใจและกิจกรรม
ลักษณะพิเศษของบุคคลออทิสติก
1.บกพร่องในด้านความสัมพันธ์ทางสังคม 2.บกพร่องในด้านการสื่อสาร 3.พฤติกรรม ความสนใจ และกิจกรรมต่าง ๆ เป็นไปอย่างจำกัด และซ้ำ ๆ
เด็กที่มี ความพิการทางร่างกาย
เด็กที่มีความพิการ ทางร่างกายจำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษาจากคุณหมอจนกว่าจะเติบใหญ่ จุดสำคัญที่สุด เขาต้องการจะให้ผู้คนปฏิบัติต่อเขาอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนเช่นการปฏิบัติ ต่อเด็กอื่น ๆ แม้จะมีความบกพร่องทางร่างกาย เขาก็ยังสามารถจะเจริญเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข กล้าแสดงออกเขาควรจะมีโอกาสได้รวมกลุ่มเล่นสนุกกับเด็กในวัยเดียวกัน คุณพ่อคุณแม่ต้องทำใจให้ยอมรับความจริง รับขีดจำกัดของลูกน้อย แทนการเสียเวลาฝันหวานว่าเขาน่าจะมีสภาพดีกว่านี้ เสียเวลาปกป้อง และมีกีดกันลูกน้อยออกจากกลุ่มเพื่อน ๆ ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะรู้สึกเศร้าเสียใจหรืออับอายไปกับรูปลักษณ์หรือสภาพ ทางร่างกายของเด็ก เพราะอย่างไรเสีย ความสงสารของคุณก็ไม่อาจช่วยอะไรเขาได้บ่อยครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวล กับความพิการและการบำบัดรักษาลูกน้อย จนลืมมองเห็นลูกน้อยในฐานะบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งก็จะเป็นการมองข้ามคุณลักษณะสดใสในตัว ที่ความพิการไม่อาจบดบังได้ เด็กพิการและคุณพ่อคุณแม่หลายต่อหลายคนยังดำเนินชีวิตอบอุ่นเปี่ยมสุขได้เห มอนครอบครัวทั่วไป ปัญหาหนักอกที่สุดที่คุณพ่อคุณแม่จะพานพบได้ก็คือ ความพิการเชิงซ้อน หรือความพิการที่ปิดกั้นความสามารถของเด็กในการเคลื่อนไหว การเล่นสนุก หรือการสื่อสาร ตัวอย่างเช่น เด็กที่มีความพิการทางสมอง ไม่อาจเคลื่อนไหวได้ถ้าไม่มีความช่วยเหลือ ไม่อาจเปล่งเสียงพูดเป็นภาษา และมีความพิการทางสติปัญญาร่วมอยู่ด้วย คุณพ่อคุณแม่อาจทำใจยอมรับได้ยากว่าจะต้องดูแลลูกในสภาพนี้ตลอดเวลาจนถึง วาระสุดท้ายของชีวิตของเขา
การให้ ความช่วยเหลือ ขอให้ระลึกเสมอว่า ลูกน้อยของคุณสามารถเรียนรู้ความรักใคร่จากพ่อแม่ได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ก็คือ ขอให้คุณพาเด้กไปพบคุณหมอโดยเร็วที่สุดนับตั้งแต่สังเกตเห็นความผิดปกติ สมาชิกทุกคนในครอบครัวควรจะมีส่วนร่วมในเรื่องนี้อย่างแข็งขัน นั่นก็หมายความว่าคุณจะต้องบรรยายเรื่องราวทุกอย่างให้ลูกคนอื่น ๆ ทราบโดยละเอียด เพราะเขาจะต้องสละความสะดวกสบายบางส่วน และมีส่วนดูแลน้องคนใหม่ที่มีความบกพร่องทางร่างกายสมาชิกทุกคนในครอบครัวจะ เรียนรู้วิธีการดูแลรักษา และยังจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะพัฒนาความรักความเข้าใจสำหรับน้องคนใหม่ที่มี ความผิดปกติทางร่างกาย คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสนใจเอาใจใส่ดูแลลูกคนอื่น ๆ เพื่อไม่ให้เขารู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง หรือต้องเสียสละเพื่อน้องแต่เพียงอย่างเดียว เด็กทุกคนในครอบครัวควรจะมีช่วงเวลาพิเศษร่วมกันเสมอ เด็กพิการบางคนอาจมีโรคร้ายที่มีผลต่อกล้ามเนื้อจนเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ การบำบัดรักษาควรรีบทำโดยเร็วที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นการรักษาโรคร้ายแล้วยังเป็นการยืดอายุลูกน้อยให้ยินยาว เพื่อให้เขาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข สบายตัวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
สาเหตุของปัญหาการเรียน
• สติปัญญาบกพร่อง หรือปัญญาอ่อน (Mental Retardation)
• วิตกกังวล หรือซึมเศร้า (Anxiety or Depression)
• สมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder ADHD)
• ภาวะการเรียนบกพร่อง (Learning Disorder –LD)
• เจ็บป่วยเรื้อรัง (Chronic Illness)
• ขาดโอกาสทางการศึกษา
• ขาดแรงจูงใจ (Lack of Motivation)
• วิธีการสอนไม่เหมาะสม
LD คืออะไร?
• ความบกพร่องของกระบวนการเรียนรู้ ที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของสมอง ทำให้ความสัมฤทธิ์ผลด้านการเรียนต่ำกว่าความเป็นจริง
• ความบกพร่องนี้อาจเกิดขึ้นเฉพาะความสามารถด้าน ใดด้านหนึ่ง เช่น การอ่าน การเขียน การสะกดคำ การคำนวณ หรือหลายๆด้านร่วมกัน
พบบ่อยแค่ไหน?
• ประมาณว่า 1 ใน 10 ของเด็กทั่วไปมีปัญหาการเรียนจนต้องได้รับการศึกษาพิเศษและเกือบครึ่งหนึ่ง ของเด็กจำนวนนี้มี LD การศึกษาของเด็กในวัยเรียนพบว่าร้อยละ 6-10 จะมี LD เด็กชายจะมีปัญหาได้บ่อยกว่าเด็กหญิงในอัตราส่วน 4:1
สาเหตุของ LD
• ความผิดปกติของการทำงานของสมองที่ไม่สามารถถอดรหัสตัว อักษรออกมาได้ (เชื่อมโยงภาพตัวอักษรเข้ากับเสียงไม่ได้)
• กรรมพันธุ์
ลักษณะของเด็ก LD แต่ละประเภท (การเขียน)
• ลากเส้นวนๆ ไม่รู้ว่าจะม้วนหัวเข้าในหรือออกนอก ขีดวนๆ ซ้ำๆ
• เรียงลำดับอักษรผิด เช่น สถิติ เป็น สติถิ
• เขียนพยัญชนะหรือตัวเลขสลับกัน เช่น ม-น, ภ-ถ, ด-ค, พ-ผ, b-d, p-q, 6-9
• เขียนพยัญชนะ ก-ฮ ไม่ได้ แต่บอกให้เขียนเป็นตัวๆได้
• เขียนพยัญชนะ หรือ ตัวเลขกลับด้าน คล้ายมองจากกระจกเงา
• เขียนคำตามตัวสะกด เช่น เกษตร เป็น กะเสด
• จับดินสอหรือปากกาแน่นมาก
• สะกดคำผิด โดยเฉพาะคำพ้องเสียง ตัวสะกดแม่เดียวกัน ตัวการันต์
• เขียนหนังสือช้าเพราะกลัวสะกดผิด
• เขียนไม่ตรงบันทัด ขนาดตัวอักษรไม่เท่ากัน ไม่เว้นขอบ ไม่เว้นช่องไฟ
• ลบบ่อยๆ เขียนทับคำเดิมหลายครั้ง
วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553
รูปแบบกิจกรรมและการบริการ
กิจกรรมที่จะทำให้ท่านและสมาชิกในองค์กรเรียนรู้กันมากขึ้น ลดช่องว่างในการทำงาน สร้างโอกาสในการปฏิสัมพันธ์กัน กระชับความสัมพันธ์อันดีเปิดมุมมองในเชิงบวก
กระบวนการสร้างทีมงาน เพื่อให้เกิดทีมงานที่เข้มแข็งเป็นการปลุกพลังและศักยภาพของสมาชิกแต่ละคนในทีม สร้างศรัทธาในองค์กรร่วมมือร่วมใจเพื่อความสำเร็จที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
(กีฬาสี กีฬาฮาเฮ มหกรรมกีฬามหาสนุก)
รูปแบบการแข่งขัน ที่ใช้กิจกรรมกลางแจ้ง กีฬาประยุกต์ ที่สนุกสนานบวกกับเนื้อหาสาระของกระบวนการพัฒนาทีมงานที่สามารถกระตุ้นพลังและความสามารถจากสมาชิกแต่ละคนไปสู่จุดหมายความสำเร็จที่ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจไปให้ถึง นั่นคือชัยชนะ
กิจกรรมพัฒนาทีมงานสุดคลาสสิค กับฐานกิจกรรมที่จำลองปัญหาและอุปสรรค ขององค์กรหรือทีมงานมาเป็นฐานกิจกรรมสนุกๆที่ท่านสามารถเลือกได้ตามต้องการหรือตรงกับปัญหาที่เกิดขึ้นภายในองค์กรโดยสมาชิกในทีมมีส่วนร่วมในการระดมความคิดในการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งสรุปผลที่ได้จากกิจกรรมร่วมกัน เพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของการพัฒนาทีมงามของแต่ละองค์กรมีความแตกต่างกัน
กิจกรรมการเรียนการสอน
สนับสนุนทางด้านกิจกรรมการเรียนการสอน รวมทั้งการประเมินผลเพื่อประกันคุณภาพของกิจกรรมดังกล่าว โดยจะสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งในระดับปริญญาตรี โท และเอก โดยจะมีคณะกรรมการวิชาการของภาควิชาสนับสนุนและให้คำแนะนำเรื่อง นโยบายทางด้านการศึกษา การเรียนรู้ การออกแบบหลักสูตร วิธีการสอน และขบวนการประกันคุณภาพทางด้านการศึกษา เพื่อให้บรรลุหลักยุทธศาสตร์ของภาควิชาฯ ซึ่งจะใช้ประสบการณ์ทางงานวิจัยเป็นแกนนำในการผลิตสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เพื่อให้นักศึกษาสามารถเรียนรู้และสามารถผลิตงานวิจัยได้เป็นอย่างดี รวมทั้งสร้างสภาวะแวดล้อมให้นักวิชาการภายในภาควิชาเป็นผู้นำและตื้นตัวในการผลิตผลงานวิจัยใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทย
สนับสนุนด้านการสร้างฐานข้อมูลการเรียน การสอนบนเครือข่ายอินเตอร์เนต เพื่อง่ายและเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษา เพื่อการสร้างสังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ส่งเสริมให้นักศึกษามีประสบการณ์ในด้านการเรียน การสอน รวมทั้งการทำวิจัย โดยใช้ผู้เรียนเป็นแกน